วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

แหล่งท่องเที่ยว จังหวัดกำแพงเพชร

1.อุทยานแห่งชาติคลองลาน  กำแพงเพชร


ข้อมูล :  อุทยานแห่งชาติคลองลาน เป็นอุทยานแห่งชาติในจังหวัดกำแพงเพชร มีพื้นที่มากกว่า 187,500 ไร่ ครอบคลุม 3 ตำบลได้แก่ ตำบลคลองลานพัฒนา ตำบลโป่งน้ำร้อน และตำบลคลองน้ำไหล อำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร  ภายในอุทยาน มีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง อาทิเช่น น้ำตกคลองลาน น้ำตกคลองน้ำไหล แก่งร้อยเกาะ เป็นต้น
ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติคลองลาน ถนนรพช. กพ. 3026 ต.คลองลานพัฒนา  อ. คลองลาน  จ. กำแพงเพชร   62180
โทรศัพท์ : 08 8407 9915, 0 5576 6002-3 (อุทยานแห่งชาติคลองลาน)
เวลาเปิด-ปิด :  เปิดทำการทุกวัน
ค่าใช้จ่าย : ไม่มีค่าใช้จ่าย
การเดินทาง :  จากกรุงเทพฯ เดินทางโดยรถยนต์ถนนสายเอเซียผ่านจังหวัดนครสวรรค์ก่อนถึงตัวจังหวัดกำแพงเพชรตรงหลักกิโลเมตรที่ 346 เลี้ยวซ้ายที่ตลาดบ้านคลองแม่ลายเข้าไปตามถนนสายคลอง แม่ลาย-อุ้มผาง ระยะทาง 46 กิโลเมตร ถึงบริเวณสี่แยกตลาดคลองลานจะมีทางแยกขวามือ เข้าไปอีก 4 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติคลองลาน

2.วัดพระนอน  กำแพงเพชร


ข้อมูล :  วัดพระนอน เป็นวัดขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บริเวณอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร สร้างขึ้นราวพุทธศตวรรษที่ 20-21 หรือยุคสุโขทัยตอนปลาย สิ่งก่อสร้างภายในวัดล้วนใช้ศิลาแลงเป็นหลัก ภายในวัดพระนอน มีโบราณสถานภายในวัด ได้แก่ พระอุโบสถ  เป็นโบราณสถานที่อยู่ด้านหน้าสุดของวัด , พระวิหาร ตั้งอยู่ด้านหลังพระอุโบสถ เดิมทีมีพระนอน (ปางไสยาสน์) ,พระเจดีย์ประธาน อยู่ถัดจากพระอุโบสถ เป็นเจดีย์ทรงระฆังองค์ใหญ่ เป็นต้น
ที่ตั้ง : ถนน อบจ. กพ. 1040 ตำบลหนองปลิง อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
โทรศัพท์ : 055-711921
เวลาเปิด-ปิด :  เปิดให้บริการทุกวัน
ค่าใช้จ่าย : ไม่มีค่าใช้จ่าย
การเดินทาง : จากวงเวียนสี่แยกเชิงสะพานฝั่งกำแพงเพชร ตามเส้นทางเข้าสู่ศาลากลางจังหวัด เลี้ยวซ้ายตามถนนสายกำแพงเพชร-อำเภอพรานกระต่าย ประมาณ 200 เมตรถึงศูนย์ข้อมูลท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร และอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร ส่วนที่ 1 เดินทางต่อไปตามเส้นทางสายเดิม ประมาณ 400 เมตรถึงทางแยกซ้ายมือ เลี้ยวซ้ายตามทางแยกอีกประมาณ 200 เมตร ถึงอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร เมืองมรดกโลก
ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : เสาแปดเหลี่ยมศิลาแลงที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย , บ่อน้ำวัดพระนอน

4.ศาลพระอิศวร  กำแพงเพชร

ข้อมูล :  ศาลพระอิศวร ตั้งอยู่ด้านหลังศาลจังหวัด มีฐานก่อด้วยศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ายกพื้นสูง 1.50 เมตร บนฐานชุกชีมีเทวรูปพระอิศวรสัมฤทธิ์ที่จำลองขึ้นแทนที่เทวรูปพระอิศวรองค์เดิม ซึ่งปัจจุบันตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติกำแพงเพชร
ที่ตั้ง : ตำบลหนองปลิง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร 62000
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-16.30 น.
ค่าใช้จ่าย : ไม่มีค่าใช้จ่าย
การเดินทาง : ศาลพระอิศวร ตั้งอยู่ด้านหลังศาลจังหวัดกำแพงเพชร อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร
ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : รูปปั้นพระอิศวร



แหล่งท่องเที่ยว จังหวัดพิจิตร

1.บึงสีไฟ พิจิตร

ข้อมูล :   บึงสีไฟ เป็นแหล่งน้ำจืดขนาดใหญ่ของประเทศไทย ตั้งอยู่ในจังหวัดพิจิตร โดยเป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่เป็นอันดับห้าของประเทศ รองจาก บึงบอระเพ็ด ทะเลสาบหนองหาน บึงละหานและ กว๊านพะเยา ตามลำดับ โดยบึงสีไฟมีเนื้อที่ 5,390 ไร่ ซึ่งลดลงมาภายหลังจากการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ ที่เดิมบึงสีไฟมีเนื้อที่มากกว่า 10,000 ไร่ บึงสีไฟเป็นแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำจืด แหล่งอาศัยของนกหลายชนิดและยังเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจที่สำคัญของจังหวัดพิจิตรด้วย
ที่ตั้ง : 19 คลองคะเชนทร์ อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัด พิจิตร 66000
โทรศัพท์ : 0 56-611309
เวลาเปิด-ปิด :  วันธรรมดาตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น. วันหยุดราชการตั้งแต่เวลา 09.00-19.00 น.
การเดินทาง :  อยู่ห่างจากศาลากลางจังหวัดพิจิตรไปทางทิศตะวันตกเพียง 1 กิโลเมต
ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : สถานแสดงพันธุ์ปลาเฉลิมพระเกียรติ หรือที่นิยมเรียกกันว่า ศาลาเก้าเหลี่ยม

2.วัดท่าหลวง พิจิตร


ข้อมูล :  วัดท่าหลวง เป็นวัดสำคัญของจังหวัดพิจิตร อยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่านฝั่งตะวันตก ใกล้ศาลากลางจังหวัด วัดนี้สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. 2388 ในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อเพชร เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยสมัยเชียงแสน หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ มีพุทธลักษณะงดงามมาก มีหน้าตักกว้าง 1.40 เมตร สูง 1.60 เมตร เป็นพระพุทธรูปสำคัญคู่เมืองพิจิตร องค์หลวงพ่อเพชร เป็นพระพุทธรูปที่มีพระพุทธลักษณะที่งดงามและทรงพุทธานุภาพอันศักดิ์สิทธิ์องค์หนึ่งของประเทศไทย
ที่ตั้ง : (พระอารามหลวง) ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
โทรศัพท์ : 0 56-611206
เวลาเปิด-ปิด :  เปิดทุกวัน 06.30-18.00 น.
การเดินทาง : อยู่ริมฝั่งแม่น้ำน่านฝั่งตะวันตก ถนนบุษบา ใกล้ศาลากลางจังหวัดเก่า 
ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : หลวงพ่อเพชร  พระพุทธรูปสมัยเชียงแสนรุ่นแรกหล่อด้วยโลหะสำริด ปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร


3.วัดเขารูปช้าง พิจิตร




ข้อมูล :  วัดเขารูปช้าง เป็นวัดที่มีโบราณสถานโดดเด่นเป็นสง่าคือ เจดีย์แบบลังกาซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันมองดูคล้ายช้าง แต่เดิมเป็นเจดีย์เก่ามาก่อน และทางวัดได้ทำการปฏิสังขรณ์ใหม่เมื่อประมาณ 20 ปีมานี้ โดยได้ประดับกระเบื้องเคลือบสีทองทั้งองค์ มีรั้วรอบองค์เจดีย์ สำหรับลานกว้างบนยอดเขา ทางวัดได้สร้างวิหารใหญ่ขึ้นหลังหนึ่งและมีเจดีย์เก่าอยู่องค์หนึ่งเป็นเจดีย์แบบลังกาทรงเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง สันนิษฐานว่าสร้างในสมัยอยุธยา มีตัวระฆังเป็นกลีบมะเฟืองแต่ยอดเจดีย์หักแล้ว นอกจากนั้นยังมีมณฑปแบบจตุรมุขหลังเก่าอยู่ใกล้กับโบสถ์หลังใหม่ ภายในมณฑปประดิษฐานพระพุทธบาทสำริด ที่ฝาผนังมีภาพเขียนเรื่องไตรภูมิพระร่วงอีกด้วย
ที่ตั้ง : ถนนพิจิตร - ตะพานหิน   ตำบลดงป่าคำ  อำเภอเมือง  จังหวัดพิจิตร 
โทรศัพท์ :  056-612675-6
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-17.00 น.
การเดินทาง : ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของตัวเมืองพิจิตรไปตามทางเส้นทางสายพิจิตร-ตะพานหิน ระยะทางประมาณ 15 กิโลเมตร 
ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : เจดีย์แบบลังกาซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีหินสีขาวซ้อนกันคล้ายช้าง

แหล่งที่มาของข้อมูล: http://www.painaidii.com


แหล่งท่องเที่ยว จังหวัดเลย

1.วัดพระธาตุศรีสองรัก สร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกันระหว่างกรุงศรีอยุธยา(สมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ) และกรุงศรีสัตนาคนหุต (ปัจจุบันคือ เวียงจันทร์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว) ในสมัยที่พม่าเรืองอำนาจรุกรานดินแดนต่างๆ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิและพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช จึงตกลงรวมกำลังเพื่อต่อสู้กับพม่า




2.วัดเนรมิตวิปัสสนา วัดที่มีพระอุโบสถทำจากศิลาแลงที่สวยงาม มีการจัดแต่งสวนต้นไม้ไว้อย่างร่มรื่นโดยรอบ ภายในพระอุโบสถเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธราชชินราชจำลองและมีภาพจิตรกรรมฝาผนังฝีมือช่างเขียนชาวด่านซ้าย



3.พิพิธภัณฑ์ผีตาโขน พิพิธภัณฑ์ผีตาโขนตั้งอยู่ภายในวัดโพนชัย จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของเมืองด่านซ้าย สาธิตทำหน้ากากผีตาโขนแ ละจำหน่ายสินค้าของที่ระลึกผีตาโขนในรูปแบบต่างๆ สามารถเข้าชมและเลือกซื้อสินค้าได้ทุกวันเสาร์-อาทิตย์



4.อุทยานแห่งชาติภูสวนทราย มีสภาพเป็นขุนเขาสูงสลับซับซ้อน และผืนป่าดิบชื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีอากาศเย็นตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะมีอากาศหนาวจัด จึงเป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาสัมผัสอากาศหนาวเย็น ด้วยการกางเต็นท์นอนชมดาวกันทุกปี โดยมีเนิน 1408 เป็นจุดสูงสุดบนภูตีนสวนทราย มีความสูง 1,408 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลาง จุดนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นบนยอดภูที่สวยมาก



5.น้ำตกตาดเหือง หรือน้ำตกมิตรภาพไทย - ลาว อยู่ในลำน้ำเหือง เป็นแม่น้ำแบ่งเขตพรมแดนระหว่างประเทศไทย - สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีลักษณะลดหลั่นกัน 3 ชั้น สูงประมาณ 50 เมตร กว้าง 25 เมตร มีน้ำไหลตลอดปี สภาพป่าบริเวณรอบๆ มีต้นไม้ขึ้นปกคลุม เหมาะสำหรับการพักผ่อนชมธรรมชาติริมน้ำเท่านั้น

แหล่งที่มาของข้อมูล : http://travel.sanook.com

ท่องเที่ยวทั่วไทย จังหวัดสุพรรณบุรี

1.ตลาดเก่าร้อยปีสามชุก ถวิลหาอดีตความทรงจำ ที่ตลาดแห่งนี้เคยเนืองแน่นด้วยผู้คน แต่ยังคงเสน่ห์ของคนสุพรรณบุรี พ่อค้าแม่ขายใจดี ของกินชิมฟรีได้ทั้งตลาด 5555



2.อนุสรณ์ดอนเจดีย์ กราบไหว้พระบรมราชานุสรณ์สมเด็จพระนเรศรทรงยุทธหัตถีบนหลังช้าง เป็นเคารพนับถือของปวงชนชาวไทย ผ่านไปมาดอนเจดีย์ อย่าลืมไปเยี่ยมชม กราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคลกันนะครับ




3.อุทยานมังกรสวรรค์ ณ ศาลหลักเมืองสุพรรณบุรี ชมมังกรสวรรค์ยามพลบค่ำ กลายแสงเป็นสีทองเหลืองอร่าม สวยสง่างามต้องบอกต่อ




4.ตลาดริมน้ำยามเย็นโพธิ์พระยา มันช่างชวนฝันเสียจริง ยั่วน้ำลายที่สุด ถูกสะอาด สด อร่อย พ่อค้าแม่ค้าใจดีมาก เป็นกันเองจริงๆ ที่สำคัญในตลาดโพธิ์พระยา เงิน 5 บาท 10 บาท ยังมีความหมายซื้อขนมกินได้อิ่มครับ แล้วอร่อยเสียด้วย


5.ถ้ำในอุทยานแห่งชาติพุเตย อ.ด่านช้าง บ่งบอกได้ว่าประเทศไทยยังมีอะไรให้ค้นหาอีกมากมาย และต้องสงวนไว้ให้คนรุ่นหลังได้ภาคภูมิใจกันบ้าง




6.พิพิธภัณฑ์บ้านควายไทย ชมวิถีของแผ่นดินไทย บรรยากาศภาพเก่าๆ ความทรงจำในอดีต ของไอ้ทุยเพื่อนยากไถนา การดำนา ลงแขกเกี่ยวข้าวด้วยมือ ที่ชักจะเลือนลางจางหายไปจากวิถีชีวิตคนไทยจนจะกลายเป็นอดีตไปแล้ว แต่กลับหาชมได้ที่นี่



7.แหล่งผลิตปลาย่างร่มควัน อ.ด่านช้าง ส่งออกต่างประเทศ ด้วยปลาย่างแถว ๆ ตะเข็บชายแดนไทย พม่า ลาว เขมร ก็ซื้อจากด่านช้างบ้านเรานี้แหละครับ



8.วัดไผ่โรงวัว อ.สองพี่น้อง อดีตความทรงจำ ชมเมืองนรก สวรรค์ อนุสรณ์พุทธสถานที่หลวงพ่อขอมกับพุทธศาสนิกชนร่วมใจกันสร้างไว้ในแผ่นดิน



9.จุดชมวิววัดป่าเขมโก อ.ด่านช้าง ริมเขื่อนกระเสียว ธรรมชาติยังคงสมบูรณ์และมีอีกหลายมุมมองให้เรายังได้ไปสัมผัส




10.วัดพร้าว อ.โพธิ์พระยา ชมฝูงค้างคาวแม่ไก่นับแสนตัวที่นับวันเริ่มลดน้อยลง น่าตื่นตาตื่นใจมากครับ



ขอขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.facebook.com/visrut.inhyam (ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานสุพรรรณบุรี ท่าน ผอ.วิศรุต อินแหยม )
เรียบเรียงโดย : ทศพร สุภาพ

ท่องเที่ยวทั่วไทย จังหวัดนครราชสีมา

1. ปราสาทหินพิมาย  นครราชสีมา


ข้อมูล : ตั้งอยู่ในตัวอำเภอพิมาย ประกอบด้วยโบราณสถานสมัยขอม ที่ใหญ่โต และงดงามอลังการนั่นคือ ปราสาทหินพิมาย แหล่งโบราณคดีอันทรงคุณ ค่าทางประวัติศาสตร์ บนพื้นที่ 115 ไร่ ตั้งอยู่ในตัวอำเภอพิมาย วางแผนผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้ากว้าง 565 เมตร ยาว 1,030 เมตร ชื่อ“พิมาย” น่าจะมาจากคำว่า “วิมาย” หรือ “วิมายปุระ” ที่ปรากฏในจารึกภาษาเขมรบนแผ่นหินตรงกรอบประตู ระเบียงคด ด้านหน้าของปราสาทหินพิมาย และยังปรากฏชื่อในจารึกอื่นอีกหลายแห่ง อาจจะเป็นคำที่ใช้เรียกรูป เคารพหรือศาสนาสถานสิ่งที่เป็นลักษณะพิเศษของปราสาทหินพิมาย คือ ปราสาทหินแห่งนี้สร้างหันหน้าไปทาง ทิศใต้ต่างจาก ปราสาทหินอื่นที่มักหันหน้าไปทางทิศตะวันออก สันนิษฐานว่าเพื่อให้หันรับกับเส้นทางที่ตัดมาจาก เมืองยโศธรปุระเมืองหลวงของอาณาจักรเขมรซึ่งเข้าสู่เมือง พิมายทางด้านทิศใต้จากหลักฐานศิลาจารึกและศิลปะ การก่อสร้างบ่งบอกว่าปราสาทหินพิมายคงจะ เริ่มสร้างขึ้นในราวปลายพุทธศตวรรษที่ 16 ในสมัยพระเจ้า สุริยวรมัน ที่ 1 รูปแบบทางศิลปกรรมของตัวปราสาทเป็น แบบปาปวนซึ่งเป็นศิลปะ ที่รุ่งเรืองในสมัยนั้น โดยมี ลักษณะของศิลปะแบบนครวัตซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยต่อมาปนอยู่บ้าง และมาต่อเติมอีกครั้งในราวต้นพุทธศตวรรษ ที่ 18 สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ซึ่งครั้งนั้นเมืองพิมายเป็นเมืองซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับอาณาจักรเขมร
ที่ตั้ง : อ. พิมาย จ.นครราชสีมา
โทรศัพท์ : 044-471-568
เวลาเปิด – ปิด : 7.30-18.00 น
การเดินทาง : ใช้ถนนมิตรภาพ ( ทางหลวงหมายเลข 2 ) จากนั้นขับตรงไป...มุ่งหน้าสู่อำเภอพิมาย ผ่าน ทางเข้าปราสาทหินพนมวัน ซึ่งอยู่ทางด้านขวามือ ขับตรงต่อไปอีกจะผ่านทางเข้าแหล่งโบราณคดีบ้านปราสาท ขับตรงมาเป็นระยะทางประมาณ 51 กิโลเมตร พบแยกไฟแดง เลี้ยวขวาที่แยกนี้ เข้าสู่ถนนหมายเลข 206 จากนั้น ขับตรงไปสู่อำเภอพิมาย จะถึงอุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านขวามือ
ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : ปราสาทหินแห่งนี้สร้างเป็นศาสนสถานในพุทธศาสนาลัทธิมหายานมาโดยตลอด เนื่องจากพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 และพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ทรงนับถือพุทธศาสนาลัทธิมหายาน

2.จิมทอมสัน ฟาร์ม นครราชสีมา



ข้อมูล : จิมทอมป์สัน ฟาร์ม แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร เป็นฟาร์มตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 600 ไร่ มีทั้งแปลงดอกไม้ สวยงาม เช่น ดอกบานชื่น ดาวเรือง แกลดิโอลัส แปลงเห็ดนานาชนิด ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปชมและเลือกตัดดอกไม้ และผลิตผลได้ด้วยตนเอง ชมแปลงผัก อาทิ ซูกินี บวบ ฟักทองนานาพันธุ์กว่า 70 สายพันธุ์ โดยจะเปิดฟาร์มให้นักท่องเที่ยว และผู้สนใจเข้าเยี่ยมชมสัมผัสความความงามตาม ธรรมชาติ แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร และวัฒนธรรมหมู่บ้านอีสาน
ที่ตั้ง : จิม ทอมป์สัน ฟาร์ม อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา
เวลาเปิด – ปิด : 9.00 – 17.00 น.
การเดินทาง : ใช้ทางหลวงหมายเลข 304 ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนน 2072 ผ่านคลังน้ำมันระยองเพียว เทคนิค ปักธงชัยและโรงเรียนบ้านปลายดาบจนถึงสี่แยกจุดตัดกับถนนเลียบคลองชลประทาน จึงข้ามคลองชลประทาน และ ตรงไปตามถนน 2072 ผ่านโรงเรียนลำพระเพลิงพิทยาคม จิม ทอมป์สัน ฟาร์มจะอยู่ขวามือ
ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : เปิดต้อนรับนักท่องเที่ยวเป็น ประจำทุกปีในเดือนธันวาคมจนถึงต้นเดือนมกราคม

3.วัดบ้านไร่  นครราชสีมา




ข้อมูล : วัดบ้านไร่ (วัดหลวงพ่อคูณ) วัดขึ้นชื่อแห่งนี้มีชื่อเสียงเนื่องจากหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ พระเกจิชื่อดัง ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาของคนทั้งประเทศดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ จึงทำให้วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปด้วย นอกจากตัวหลวงพ่อจะทำให้วัดนี้โด่งดังแล้ว "หอเทพวิทยาคม เฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา (อาคารปริสุทธปัญญา)" ก็เป็นอีกจุดเด่นของที่นี่ ด้วยลักษณะเป็นอาคารประติมากรรมช้าง ตั้งอยู่บนพื้นที่บึงน้ำขนาด 30 ไร่ เป็นอาคารสูง 4 ชั้น รวมชั้นใต้ดิน (ชั้นบาดาล) 1 ชั้น โดยชั้นดาดฟ้าของอาคารเป็นรูปปั้นหลวงพ่อคูณและสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีความสูงรวมแล้ว 42 เมตร อาคารตั้งอยู่บนลานทรงกลมมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 65 เมตร ทำให้หอเทพวิทยาคม กลายเป็นพุทธสถานในนิกายมหายานที่มีชนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย 
ที่ตั้ง : วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา  
วันเวลาเปิด – ปิด  :  เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00-17.00 น.
ค่าใช้จ่าย : ไม่มี
การเดินทาง  : จากกรุงเทพฯ ใช้ถนนพหลโยธิน (ทางหลวงหมายเลข 1) มุ่งหน้าสู่จังหวัดสระบุรี ประมาณ 75 กิโลเมตร ถึงตัวเมืองสระบุรี เมื่อถึงตัวเมืองสระบุรีแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่จังหวัดนครราชสีมา ประมาณ 89 กิโลเมตร จะถึงเขื่อนลำตะคอง ขับตรงไปอีกประมาณ 14 กิโลเมตร จะพบกับป้ายบอกทางถนนสาย 201 กับถนนสาย 24 ให้เลี้ยวซ้ายไปทางถนนสาย 201 (ไปจังหวัดชัยภูมิ) จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่อำเภอด่านขุนทด พอถึงอำเภอด่านขุนทดให้ท่านขับตรงไปอีก จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสาย 2217 จากนั้นขับตรงไป ประมาณ 11 กิโลเมตร ก็จะถึง "วัดบ้านไร่"

แหล่งที่มาของข้อมูล : http://www.painaidii.com



วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2558

ท่องเที่ยวทั่วไทย จังหวัดหนองคาย

1. แหลมสมิหลา สงขลา 
ข้อมูล :  หาดสมิหลา สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่มีชื่อเสียงของสงขลา อยู่ในเขตเทศบาลเมือง หาดสมิหลามีโขดหินขนาดย่อมยื่นลงทะเล หาดทรายขาวละเอียดมากที่เรียกว่า "ทรายแก้ว" มีป่าสนร่มรื่น จากหาดสมิหลาสามารถมองเห็นทิวทัศน์อันงดงามของ เกาะหนูเกาะแมว จน มีคำกล่าวว่าใครมาเยือนสงขลาแล้วไม่มาเยือนสมิหลาก็เหมือนมาไม่ถึงสงขลา มีสัญลักษณ์ที่มีชื่อเสียงรูปปั้น นางเงือกทอง โดยรอบบริเวณได้จัดสวนหย่อมไว้ดูร่มรื่นเหมาะเป็นที่นั่งพักผ่อนยามเย็น 
ที่ตั้ง :    อยู่ในเขตเทศบาลนครสงขลา
การเดินทาง  : ตั้งอยู่ไม่ห่างไกลจากอำเภอหาดใหญ่มากนัก (ประมาณ ๓๐ กิโลเมตร) อยู่ในเขตเทศบาลนครสงขลา ห่างจากตลาดสดเทศบาลเพียง 2.5 กม. การเดินทางสะดวกมีถนนเลียบชายหาด ตลอดแนว จากอำเภอหาดใหญ่สามารถใช้รถประจำทางสายหาดใหญ่ - สงขลาได้หากอยู่ในเมืองก็มีรถสองแถวไปชายหาด

วันเวลาเปิด – ปิด  :  เปิดให้บริการทุกวัน



2. เกาะยอ  สงขลา 
ข้อมูล : เกาะยอ เป็นเกาะเพียงเกาะเดียวในทะเลสาบสงขลาตอนล่าง อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอำเภอเมืองสงขลา พื้นที่ส่วนใหญ่ในเกาะยอเป็นภูเขาไม่สูงนัก มีที่ราบเชิงเขาติดทะเล และมีที่ราบกว้างทางตอนใต้ของเกาะยอ  ผ้าทอเกาะยอ เป็นผ้าพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากผู้นิยมสวมใส่ผ้าไทย มีลายที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ลายราชวัตถ์ ดอกพิกุล ดอกพะยอม เนื้อผ้าดูแลรักษาง่าย นอกจากนั้นเกาะยอยังเป็นแหล่งเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังในทะเลสาบสงขลาอีกด้วย
ที่ตั้ง :    อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอำเภอเมืองสงขลา
การเดินทาง  : จากตัวเมืองใช้ทางหลวงหมายเลข 407 และเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวง 4083 ทางไปอำเภอสิงหนคร 
วันเวลาเปิด – ปิด  :  เปิดให้บริการทุกวัน

ค่าใช้จ่าย : ไม่มี 


แหล่งที่มาของข้อมูล : http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/001507/lang/th/

ท่องเที่ยวทั่วไป จังหวัดภูเก็ต

1.แหลมพรหมเทพ ภูเก็ต
ข้อมูล : เป็นจุดชมวิวที่สวยงามของภูเก็ต เป็นแหลมที่อยู่ตอนใต้สุดของเกาะภูเก็ต ชาวบ้านเรียกว่าแหลมเจ้า จากริมหน้าผามีแนวต้นตาลลาดลงสู่ปลายแหลมที่เป็นโขดหิน สามารถเดินไปจนถึงปลายแหลมได้ มองเห็นน้ำทะเลสีเขียวมรกต และสามารถเห็นเกาะแก้วอยู่ด้านหน้าแหลม ทางขวาจะเห็นแนวหาดทรายของหาดในหาน
ที่ตั้ง : อ.เมือง จังหวัดภูเก็ต
การเดินทาง : จากตัวเมืองภูเก็ตไปตามทางหลวงหมายเลข 4027 และ 4024 ผ่านหาดราไวย์และหาดในยะ จากนั้นตรงไปตาม ทางหลวงหมายเลข 4233 อีกประมาณ 650 ม. ก็ถึงลานจอดรถของแหลมพรหมเทพ ต้องเดินขึ้นบันได ไปบน เนินสูง เพื่อไปจุดชมวิว ถ้าต้องการชมทิวทัศน์ที่ปลายแหลมพรหมเทพ ต้องเดินต่อไปตามทางดินอีกประมาณ 1 กม.

ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : เป็นสถานที่ชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง นอกจากนั้นยังมี “ประภาคารกาญจนาภิเษก แหลมพรหมเทพ” สร้างขึ้นในวโรกาส ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฉลองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี




2.หาดป่าตอง ภูเก็ต
ข้อมูล : ชายหาดที่มีชื่อเสียงมากอีกแห่งหนึ่ง เพราะที่นี่มีครบครันทั้งร้านอาหาร, ที่พัก, สถานบันเทิง จนทำให้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติแวะมาไม่ขาดสาย จุดเด่นของหาดคือทรายขาวละเอียด เหมาะสำหรับเล่นน้ำทะเล และเล่นกิจกรรมทางทะเล
ที่ตั้ง : อ.ป่าตอง ภูเก็ต
การเดินทาง : ใช้ถนนวิชิตสงคราม หรือ ทางหลวงหมายเลข 4020 ไป 9 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 4029 ไปอีก 6 กิโลเมตร
ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : น้ำใส ทรายสวย เหมาะสำหรับคนที่อยากเล่นน้ำทะเล รวมทั้งยังมีแหล่งช้อปปปิ้ง และสถานบันเทิงอีกมากมาย



แหล่งที่มาของข้อมูล: http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/000356/lang/th/

ท่องเที่ยวทั่วไทย จังหวัดกาญจนบุรี

1. อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ - น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น กาญจนบุรี

ข้อมูล : อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ มีพื้นที่ครอบคลุมถึง 3 อำเภอ ทั้ง อำเภอไทรโยค อำเภอศรีสวัสดิ์ และอำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี ด้วยเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม ป่าต้นน้ำลำธารของแม่น้ำแควใหญ่เหนือเขื่อนศรีนครินทร์ มีสภาพป่าสมบูรณ์เป็นภูเขาสลับซับซ้อน มีสัตว์ป่าชุกชุม และมีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สำคัญหลายแห่ง เช่น น้ำตกห้วยแม่ขมิ้น น้ำพุร้อน ถ้ำ และทะเลสาบ เป็นต้น ทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญของจังหวัดกาญจนบุรี 
ที่ตั้ง : 1  ต. นาสวน  อ. ศรีสวัสดิ์  จ. กาญจนบุรี  71250 
การเดินทาง : ไปตามทางหลวงหมายเลข 323 ผ่านตัวเมืองกาญจนบุรี จากนั้นใช้เส้นทางสายกาญจนบุรี-น้ำตกเอราวัณ (ทางหลวงหมายเลข 3199 ) ผ่านถ้ำพระธาตุ ห้วยพุมุด (วัดพุมุด) เส้นทางหลังจากนี้เป็นดินลูกรังอัดแน่นเข้าไปถึงบริเวณน้ำตกห้วยแม่ขมิ้น รวมระยะทางประมาณ 104 กิโลเมตร

ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : นอกจากภายในอุทยานฯ จะมีน้ำตกห้วยขมิ้น ที่มีสภาพสวยงาม อุดมสมบูรณ์แล้ว ล่าสุดยังค้นพบ “ถ้ำสวรรค์”  เป็นถ้ำที่เพิ่งค้นพบใหม่ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ บริเวณหมู่บ้านต้นมะพร้าว ตำบลแม่กระมุง อำเภอศรีสวัสดิ์ ลักษณะถ้ำเป็นเหมือนอุโมงค์ธรรมชาติ กว้างประมาณ 9 เมตร สูง 9 เมตร ยาว 150 เมตร มีภาพวาดของคนโบราณตามฝาผนังปรากฏเรื่องราวเกี่ยวกับโจรสลัดในสมัยโบราณอีก ด้วย


2. อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ - เขาช้างเผือก  กาญจนบุรี
ข้อมูล : อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิมีอาณาเขตครอบคลุมพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติห้วยเขย่ง และป่าเขาช้างเผือก ในอำเภอทองผาภูมิและอำเภอสังขละบุรี ในพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี มีพื้นที่ราบลุ่มไม่มากนัก ในอุทยานแห่งชาติทองผาภูมิยังเป็นป่าที่สมบูรณ์มาก ทำให้มีสัตว์ป่าแ ละพรรณไม้หายากอยู่ ณ ที่แห่งนี้ และทัศนียภาพของเทือกเขาที่สลับซับซ้อน สร้างความตื่นตาให้กับนักท่องเที่ยวที่ได้มาเยือนทุกคน และยังมีน้ำตกขนาดใหญ่ที่สวยงาม อาทิ น้ำตกเขาใหญ่, น้ำตกน้ำดิบใหญ่, น้ำตกจ๊อกกระดิ่น และน้ำตกบิเต็ง รวมไปถึงมีเส้นทางเดินป่าขึ้นจุดชมวิวเขาขาดระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวที่รักการผจญภัยมเพื่อขึ้นมาชมวิวธรรมชาติ สวยสดจากจุดชมวิวเขาขาดแห่งนี้ 

ที่ตั้ง : อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 21110 
การเดินทาง : ใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินสาย 323 ถึงอำเภอทองผาภูมิ หลังจากนั้นเดินทางต่อโดยใช้เส้นทางหลวงแผ่นดินสาย 3272 จนถึงพื้นที่สำรวจ ซึ่งที่ทำการอุทยานฯ ชั่วคราวตั้งอยู่บริเวณหมู่บ้านห้วยปากคอก อยู่ห่างจากอำเภอทองผาภูมิเป็นระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตร
ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : ต้องยกให้จุดชมวิวทิวทัศน์ 2 แห่งนี้ โดดเด่น สวยงาม จนนักท่องเที่ยวหลายต่อหลายคนต้องร้องว้าว!!  คือ ดอยต่องปะแล ซึ่งต้องจอดรถ และเดินขึ้นเขาไปประมาณ 300 เมตร เป็นจุดชมวิวที่สวยงาม มองเห็นน้ำตกจ๊อกกะดิ่นอยู่ไม่ไกล และ เนินกูดดอย สามารถนำรถขึ้นไปจอดได้ เป็นจุดชมวิวทิวเขาซับซ้อนสุดสายตา มองเห็นทะเลสาบเขื่อนวชิราลงกรณ์ และเขาช้างเผือกภูเขาที่สูงที่สุดในอุทยานฯ


แหล่งข้อมูลจาก:http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/000448/lang/th/

ท่องเที่ยวทั่วไทย จังหวัดชัยภูมิ


1. มอหินขาว ชัยภูมิ
ข้อมูล : สโตนจ์เฮนจ์เมืองไทย ตั้งอยู่ที่บ้านวังคำแคน หมู่ที่ 9 ตำบลท่าหินโงม ห่างจากตังเมืองชัยภูมิไปทางทิศเหนือประมาณ 40 กิโลเมตร ในพื้นที่ของเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าภูแลนคา ด้านทิศเหนือ เป็นเนินเขาที่มีหินทรายสีขาว ขนาดมหึมา 5 แท่ง ตั้งตระหง่านโพล่พ้นต้นหญ้า ยามต้องแสงแดดในเวลากลางวันและช่วงเวลาหลังฝนตกไม่นานจะมองเห็นก้อนหินสีขาวเด่นชัดจากระยะไกล เป็นที่สะดุดตาแก่ผู้พบเห็น มอหินขาวจัดเป็นจุดชมวิวที่สวยงามแห่งหนึ่งของจังหวัดชัยภูมิ
ที่ตั้ง : บ้านวังคำแคน หมู่ที่ 9 ตำบลท่าหินโงม เมืองชัยภูมิ, ชัยภูมิ 36000
เวลาเปิด – ปิด : เปิดให้บริการทุกวัน
การเดินทาง : ใช้ทางหลวงหมายเลข 2051 ตามถนนสายชัยภูมิ-น้ำตกตาดโตน ระยะทางประมาณ 18 กิโลเมตร แยกเลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทางไปท่าหินโงม เป็นทางลาดยางขึ้นเขาประมาณ 12 กิโลเมตร ถึงสามแยกทางไปบ้านแจ้งเจริญ-โสมเชือก 6.5 กิโลเมตร ผ่านบ้านวังคำแคน จะถึงบริเวณที่ตั้งของหินขนาดใหญ่ จำนวนหลายแท่งและกลุ่มหินอีกจำนวนมาก ขนาดลดหลั่นกันใหญ่บ้างเล็กบ้าง ขึ้นอยู่ประปรายในพื้นที่เทือกเขา "ภูแลนคา" รวมระยะทางประมาณ 40 กิโลเมตร
ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก : ลักษณะด้านกายภาพของพื้นที่มอหินขาว ประกอบด้วยกลุ่มหินแบบเสาหิน แท่นหิน และลานหิน ซึ่งมีรูปร่างและลักษณะแตกต่างกันออกไปตามจินตนาการของผู้พบเห็น ลักษณะเป็นก้อนหินใหญ่แปลกตา หาดูยาก รูปร่างคล้ายเห็ด เรือ ช้าง เต่า และเจดีย์




2.ทุ่งดอกกระเจียว ชัยภูมิ
ข้อมูล : "ทุ่งดอกกระเจียว" เกิดจากดอกกระเจียวป่า หลากหลายสายพันธุ์ ที่พร้อมใจกันขึ้นรายรอบบริเวณ ของอุทยานฯ และจะมีอยู่บริเวณหนึ่งใช้พื้นที่หลายไร่ ที่จะมีดอกกระเจียวขึ้นอย่างหนาแน่นจนกลายเป็นทุ่ง ซึ่ง เวลามองดูก็จะเห็นเป็นสีชมพูปนขาว และมีสีเขียวของลำต้นและก้านใบเป็นสีเขียวสด ประกอบกับสีเขียว ของหญ้าทีขึ้นมาแซม ทำให้ทุ่งกระเจียว เขียวขจี สวยงามเหมือนกับทุ่งในทรวงสวรรค์เลย
ที่ตั้ง : ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต ชัยภูมิ
เวลาเปิด – ปิด : เปิดประจำทุกปี ในช่วงเดือน มิถุนายน-สิงหาคม
การเดินทาง : ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 เมื่อถึงพุแคให้เลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 21 จนถึงอำเภอชัยบาดาลให้เลี้ยวเข้าทางหลวงหมายเลข 205 จนถึงอำเภอเทพสถิต ให้เลี้ยวซ้ายไปตามทางหลวงหมายเลข 2354 ไปประมาณ 18 กิโลเมตร จะมีทางแยกซ้ายมือ มีป้ายบอกไปอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม เลี้ยวซ้ายไปตามถนนลาดยางอีก 13 กิโลเมตรก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติ
ไฮไลท์ PaiNaiDii ขอบอก :ในช่วงฤดูฝน เริ่มต้นเดือนมิถุนายน ถึง ปลายเดือนกรกฎาคม ของทุก ๆ ปี ต้นกระเจียวจะออก ดอกสวยงามตระการตาไปทั่วผืนป่า จัดได้ว่าเป็น "นางเอกของอุทยานฯ" ก็ว่าได้ ทั้งนี้เพราะดอกกระเจียว จะไม่มีให้เห็นเลยนอกเสียจากในช่วงเวลาที่ว่านี่เท่านั้น






แหล่งที่มาของข้อมูล : http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/001479/lang/th/